วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 10

แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 10
การเขียนรายงานผลการดำเนินงานReporting การรายงานผลมีความสำคัญอย่างไร ต่อการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
ตอบ เป็น การแสดงข้อมูลอย่างเป็นระบบให้กับผู้บังคับบัญชา หรือสาธารณชนได้รับทราบผลการดำเนินงาน และเป็นการนำเสนอเพื่อปรับปรุงในการดาเนินงานครั้งต่อ ๆ ไป

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การเขียนรายงานผลการดำเนินงานReporting


การรายงานผลมีความสำคัญอย่างไร ต่อการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
ตอบ
เป็นการแสดงข้อมูลอย่างเป็นระบบให้กับผู้บังคับบัญชา หรือสาธารณชนได้รับทราบผลการดำเนินงาน และเป็นการนำเสนอเพื่อปรับปรุงในการดาเนินงานครั้งต่อ ๆ ไป

แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ 8



1. สิ่งสาคัญเบื้องต้นของการประสานงานมีอะไรบ้าง
ตอบ
1.การจัดวางหน่วยงานที่ง่ายและเหมาะสม
2.การมีโครงการและนโยบายอันสอดคล้องกัน
3.การมีวิธีติดต่องานภายในองค์การที่ทำไว้ดี
4.มีเหตุที่ช่วยให้มีการประสานงานโดยสมัครใจ
5.การประสานงานโดยวิธีควบคุม


2. เทคนิคการประสานงาน (Techniques Coordination) มีอะไรบ้าง
ตอบ
1. จัดให้มีระบบการติดต่อสื่อสารทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การกำหนดอำนาจหน้าที่และตำแหน่งงานอย่างชัดเจน
3. การสั่งการและการมอบหมายอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
4. การใช้คณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ประสานงานโดยเฉพาะการประสานงานภายในองค์การ
5. การจัดให้มีการประสานงานระหว่างพนักงานในองค์การ
6 .การจัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา
7. การติดตามผล

3. จงอธิบายอุปสรรคของการประสานงาน มาพอเข้าใจ
ตอบ
1. การขาดความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้วยกันจะกลายเป็นสาเหตุทำให้การติดต่อประสานงานที่ควรดำเนินไปด้วยดี ไม่สามารถกระทำได้
2. การขาดผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารที่มีความสามารถ
3. การปฏิบัติงานไม่มีแผน ซึ่งเป็นการยากที่จะให้บุคคลอื่น ๆ ทราบวัตถุประสงค์และวิธีการในการทำงาน
4. การก้าวก่ายหน้าที่การงาน
5. การขาดการติดต่อสื่อสารที่ดีย่อมทำให้การทำงานเป็นระบบที่ดีของความร่วมมือขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
6. การขาดการนิเทศงานที่ดี
7. ความแตกต่างกันในสภาพและสิ่งแวดล้อม
8. การดำเนินนโยบายต่างกันเป็นอุปสรรคต่อการประสานงาน
9.ประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างกันจะเป็นการยากที่จะก่อให้เกิดมีความร่วมมือและประสานงานกันเพราะแสดงว่ามีฝีมือคนละชั้น
10. การทำหน้าที่ความรับผิดชอบและอำนาจไม่ชัดแจ้งทาให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความกังวลใจและอาจไปก้าวก่ายงานของบุคคลอื่นก็ได้
11. ระยะทางติดต่อห่างไกลกัน
12.เทคนิคและวิธีการปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันเนื่องมาจากการกุมอำนาจหรือการกระจายอำนาจมากเกินไป

4. จากทฤษฎีที่ศึกษามานิสิตคิดว่าศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ใดบ้างที่มีปัจจัยที่ทำให้เกิดการประสานงานที่ดี
จงยกตัวอย่างศูนย์ฯ พร้อมอธิบาย
ตอบ
สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา เพราะการจัดวางหน่วยงานที่ง่ายและเหมาะสมการมีโครงการและนโยบายอันสอดคล้องกันการมีวิธีติดต่องานภายในองค์การที่ทำไว้ดีมีเหตุที่ช่วยให้มีการประสานงานและการประสานงานโดยวิธีควบคุม

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ตอบคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 7


1.กระบวนการผลิตทรัพยากรการเรียนรู้มีกี่ขั้นตอนอะไรบ้าง

ตอบ 7 ขั้นตอน

1. กำหนดจุดมุ่งหมายและบทบาทของสื่อให้ชัดเจน

2.
เลือกสื่อที่เหมาะสม

3.
ออกแบบสื่อ

4.
ผลิตสื่อ

5.
ทดสอบสื่อ

6.
เผยแพร่สื่อ และนำไปใช้

7.
การตรวจสอบและบำรุงรักษาสื่อ


2.รูปแบบของการให้บริการทรัพยากรการเรียนรู้มีกี่ประเภท อะไรบ้าง จงยกตัวอย่างพร้อมอธิบาย

ตอบ
1.แบบสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทเดียว คือ เป็นการให้บริการเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือ นิตยสาร โดยมีมุมต่างๆ ในการให้บริการ ได้แก่ ห้องสมุด

2. แบบผสมผสานระหว่างสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์คือเป็นการให้บริการให้ความรู้ทั้งหนังสือ วารสาร นิตยสาร และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่บรรจุเนื้อหาในรูปแบบของดิจิทัล

3. แบบบริการทรัพยากรการเรียนรู้สมบูรณ์ คือ การจัดสื่อสิ่งพิมพ์ และวัสดุ อุปกรณ์ สื่อโสตทัศน์ที่หลากหลายมารวมไว้ในจุดบริการเดียวกัน ซึ่งมีกระบวนการวิธีระบบและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้เข้ามาใช้ โดยจัดให้ผู้ชำนาญเฉพาะสาขาเข้ามาดาเนินการให้บริการ

4. แบบนิทรรศการ โดยนาเสนอในรูปแบบของการบริการให้ความรู้ ในรูปแบบของนิทรรศการถาวร โดยนาแหล่งการเรียนรู้ที่กระจัดกระจาย มานำเสนอในรูปแบบของนิทรรศการถาวร หรืออาจมีนิทรรศการหมุนเวียนตามเหตุการณ์สำคัญ ที่ผู้ขอรับบริการสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อที่หลายในนิทรรศการ นั้น โดยมีการให้เข้าเยี่ยมชม เช่น พิพิธภัณฑ์ต่าง

5. แบบบันเทิงศึกษา (Edutainment) หมายถึง สถานที่ที่ให้บริการความเรียนรู้ที่รวบรวมรวมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์และวิธีการที่หลากหลายแบบมาบูรณาการ ซึ่งประกอบด้วย การเรียนรู้ การลงมือปฏิบัติ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ที่พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและเป็นแหล่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน ในรูปแบบของสื่อปฏิสัมพันธ์

3.การบริการทรัพยากรการเรียนรู้คืออะไร

ตอบ การบริการทรัพยากรการเรียนรู้ คือ กิจกรรมที่นักเทคโนโลยีการศึกษา หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งแสดงถึงจิตใจ และพฤติกรรมการแสดงออกในการให้ความรู้ ด้วยทรัพยากรทั้งวัสดุ อุปกรณ์ หรือวิธีการ ถึงการให้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งเพื่อให้ผู้รับนั้นพึงพอใจ และเกิดการเรียนรู้จากทรัพยากรการเรียนรู้นั้น

4.ขอบข่ายของงานบริการทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ ขอบข่ายของงานบริการทรัพยากรการเรียนรู้ ได้แก่

ผลิตสื่อ ออกแบบและพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนรู้ ส่งเสริมการนาเสนอสื่อในรูปแบบใหม่

เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารต่าง ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

ให้ความรู้ นำสื่อในรูปแบบที่หลากหลายมากให้กลุ่มเป้าหมายได้ศึกษา โดยมีการให้คำแนะนำ หรืออาจมีกิจกรรมเช่น นิทรรศการ จัดฝึกอบรม ต่าง









วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 Directing

1. ให้สรุปความหมายของการสั่งการมาพอเข้าใจ

การจัดการของผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการสั่งการตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ชี้แนะ บุคคล การนิเทศงาน และการติดตามผล เพื่อให้งานดำเนินไปตามแผนหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้


2. ขั้นตอนการสั่งการหรือการอำนวยการมีอะไรบ้าง

1. การวางแผน/เตรียมสั่งงาน

-ทำไม
(จุดประสงค์การสั่งงาน/ผลงานที่ต้องการ)

- อะไร (เนื้อหาของงานที่จะสั่ง)


- ใคร(คนที่จะรับคำสั่งงาน)


- อย่างไร (วิธีการสั่งงาน/ วิธีกระตุ้นความสนใจของลูกน้อง)

- เมื่อไหร่ (เวลาที่เหมาะกับการสั่งงาน)

- ที่ไหน (สถานที่ที่เหมาะกับการสั่งงาน)

2. การสั่งงาน



กระตุ้นความสนใจของลูกน้อง หัวหน้างานจะต้องดึงความสนใจของลูกน้องให้ได้ การให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการถามคำถาม ทวนประเด็น หรือทดลองทำตลอดช่วงเวลาที่สั่งงาน
เป็นวิธีการที่ดีอีกวิธีการหนึ่ง


เริ่มสั่งงาน ตามแผนที่วางไว้ หัวหน้างานอธิบายจุดประสงค์ของงาน
ระบุสิ่งที่ต้องดำเนินการ มาตรฐานการทำงาน/ ปฏิบัติงาน
เวลาที่จะเริ่มต้นและสิ้นสุดของงาน
สถานที่ที่จะดำเนินการ
หัวหน้างานอาจใช้การสาธิต หรือ ให้ลูกน้องทดลองปฏิบัติตามขั้นตอนที่เตรียมไว้

ทดสอบความเข้าใจของลูกน้อง
ต้องทดสอบความเข้าใจของลูกน้องอย่างสม่ำเสมอ
ตลอดการสั่งงาน
ประเด็นสำคัญที่หัวหน้างานจะต้องทดสอบว่าลูกน้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับงานที่สั่ง
ได้แก่

1. จุดประสงค์ของการสั่งงาน ในหลายๆ กรณีมักจะ หมายถึงผลลัพธ์ ผลงานที่คาดหวังจะได้รับ


2. สิ่งที่ลูกน้องจะต้องดำเนินการ มาตรฐานการปฏิบัติงาน


3. วันและเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของงานที่สั่ง

4. สถานที่ที่จะดำเนินการ


3.การติดตามผล คือ
การติดตามความคืบหน้าของการนำคำสั่งงานนั้นไปดำเนินการเนื่องจากบางครั้ง
อาจมีการดำเนินการที่ผิดไปจากคำสั่งงานได้ เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น
หัวหน้างานสามารถช่วยเหลือ ให้คำแนะนำแก่ลูกน้องให้แก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น
ในการ
วางแผน/เตรียมการสั่งงาน
จำเป็นต้องคิดถึงแผน หรือติดตามผลด้วย



3. องค์ประกอบของการอำนวยการมีอะไรบ้าง

1.ความเป็นผู้นำ ; เป็นกระบวนการของการสั่งการ และการใช้อิทธิพลต่อกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในองค์การ ให้ยอมตามเพราะยอมรับในอานาจที่มาจาก 3 แหล่ง คือ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา อานาจจากบารมี และอานาจตามกฎหมาย จึงก่อให้เกิดผู้นา 3 แบบ คือ แบบประชาธิปไตย แบบเผด็จการ และแบบตามสบาย
2.การจูงใจ ; มีความสาคัญต่อการสั่งการหรือการอานวยการ เพราะเกี่ยวกับบุคลากรให้ปฏิบัติงาน จึงจาเป็นต้องมีการจูงใจหรือกระตุ้นให้อยากทางาน โดยอาศัยหลักธรรมชาติว่ามนุษย์ต้องการ 5 ระดับได้แก่ ความต้องการขั้นพื้นฐาน คือปัจจัย 4 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย ความต้องการทางสังคม ความต้องการมีเกียรติยศชื่อเสียง และความต้องการประสบความสาเร็จในชีวิต ดังนั้น ในการสั่งการโดยมีเทคนิคจูงใจด้วย ก่อนจะสั่งการควรขึ้นคาถามก่อนว่าพอมีเวลาหรือไม่หรือคุณจะช่วยงานนี้ได้ไหม

3. การติดต่อสื่อสาร; เป็นกระบวนการสาคัญช่วยให้การอานวยการดาเนินไปได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพ มี 2 ลักษณะคือ สื่อสารแบบทางเดียว และสื่อสารแบบ 2 ทาง

4. องค์การและการบริหารงานบุคคล จุดมุ่งหมายของนักอำนวยการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์การ ซึ่งต้องการไม่เหมือนกันผู้อานวยการจึงต้องทาให้เกิดความสมดุลกัน


4. ให้นิสิตอธิบายความสำคัญของการสั่งการกับการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มาอย่างน้อย 5 ข้อ


1. ปรับวัตถุประสงค์ของบุคคลให้เข้ากับวัตถุประสงค์ขององค์การ


2. การให้มีส่วนร่วมในการบริหาร


3 การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น

4. การมีส่วนร่วมในการยอมรับเป้าหมาย
ขององค์การ


5. การมีส่วนร่วมในหน้าที่ความรับผิดชอบ



วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้

1.อธิบายภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญๆของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
ตอบ
- การจัดหาสื่อประเภทต่างๆ ไว้สาหรับบริการ
- การผลิตสื่อเพื่อนามาใช้ในการเรียนการสอน
- การจัดระบบ จัดเก็บ แยกหมวดหมู่และจัดทาทะเบียน
- การบริการให้ยืมวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์
- การให้คาปรึกษา แนะนาการใช้และการผลิตสื่อ
- การวิจัยและพัฒนาสื่อ

2. ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จะประกอบด้วยบุคคลด้านใดบ้าง
ตอบ
- ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ ให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำการจัดดาเนินงาน การจัดบุคลากร การนิเทศ การติดต่อประสานงาน การทำงบประมาณ การกำหนดมาตรฐานของงาน เพื่อให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
- ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ที่นาโครงการต่างๆออกสู่ กลุ่มเป้าหมาย
- ด้านการผลิตสื่อ ทำหน้าที่ในการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนการสอน
- ด้านวิชาการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า พัฒนาและเผยแพร่ผลงาน
- ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการศึกษาเป็นสำคัญในการจัดหาสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเนื้อหาแต่ละวิชา
- ด้านกิจกรรมอื่น


3. ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภทที่สำคัญได้กี่ประเภท
ตอบ
1. บุคลากรทางวิชาชีพ (Professional Staff)
2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ (Paraprofessional Staff) บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ
3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ (Non-professional Staff) บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งจะมีคุณวุฒิหลากหลายจะใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจานวนบุคคลในแต่ละประเภทจะมีมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย ขนาดหรือปริมาณของงาน ขอบเขตของการให้บริการ ลักษณะของระบบงานบริการ จานวนผู้ใช้บริการ และงบประมาณของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละแห่งเป็นสำคัญ

4. ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ
ขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างในการทำกิจกรรม เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอแล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นก่อนการจัดหาหรือจัดซื้อสื่อมาไว้บริการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจและศึกษาความต้องการของผู้ใช้ก่อนเสมอ
ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นการจัดหา โดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆ หรือโครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไป

5. อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ ท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญ อะไรบ้าง
ตอบ
1. ความคงทน(Ruggedness) โดยพิจารณาถึงวัสดุที่ประกอบเป็นตัวเครื่องให้ความคงทนแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
2. ความสะดวกในการใช้งาน (Ease of Operation) โดยพิจารณาถึงการควบคุม การบังคับกลไกไม่ซับซ้อนจนเกินไปหรือมีปุ่มต่างๆมากมายเกินไป

3. ความกะทัดรัด (Portability) โดยพิจารณาถึงขนาดของตัวเครื่อง น้ำหนัก ความสะดวกในการเก็บและเคลื่อนย้าย

4. คุณภาพของเครื่อง(Quality of Peration) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานที่ประกอบรวมกันเป็นไปตามคุณสมบัติต้องการใช้งานเพียงใด
5. การออกแบบ (Design) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ว่าสวยงามมีความทันสมัย การติดตั้งอุปกรณ์ประกอบออกแบบให้ใช้ได้ง่าย
6. ความปลอดภัย (Safety) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ง่ายขณะใช้งาน
7. ความสะดวกในการบำรุงรักษาละซ่อมแซม (Ease of Maitenance and Repair) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนประกอบใดที่ยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือมีความยากลำบากในการดูแลรักษาหรือมีส่วนประกอบที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเมื่อชำรุดแล้วไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย
8. ราคา (Cost) ในการจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์มาใช้หรือเพื่อบริการควรคำนึงถึงราคาซึ่งไม่แพงเกินไปที่สำคัญพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้วจึงนำไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมกับราคาและคุณภาพของเครื่องมืออุปกรณ์นั้น
9. ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิต(Reputation of Manufacturer) การพิจารณาบริษัทผู้ผลิตเพื่อจะได้ทราบว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ซื้อนั้นมีจำนวนและรุ่นที่ผลิตออกมามากน้อยพียงใด หากเป็นบริษัทที่มั่นคงมีชื่อเสียงจะเห็นได้ว่ามีระบบการผลิต ระบบการจัดการอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน ทำให้วัสดุอุปกรณ์มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
10. การบริการซ่อมแซม (Available Service) อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ควรเป็นแบบที่สามารถซ่อมแซมได้ง่าย รวดเร็วและมีบริการดูแลบำรุงรักษาที่เอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอและมีอะไหล่สำรองไว้เพียงพอหรือเมื่อมีปัญหาทางบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้รวดเร็ว


6. การบริหารงานบุคคล หมายถึงอะไร
ตอบ การบริหารงานบุคคล หมายถึง ศิลปะในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเข้ามาทางานในองค์การ มอบหมายงาน พัฒนาบุคคลและให้พ้นจากงาน โดยคานึงถึงประสิทธิภาพของเป้าหมายหรือบริการของศูนย์ฯ หรือหน่วยงานเป็นสำคัญ


7. หลักการบริหารงานบุคคลมีกี่ ระบบ อะไรบ้าง
ตอบ 2 ระบบ ได้แก่
1. ระบบคุณธรรม Merit System ใช้หลักเกณฑ์
1.1 หลักความเสมอภาค เช่น มีสิทธิสอบได้ทุก
1.2 หลักความสามารถ เช่น คัดเลือกผู้มีความสามารถสูงไว้ก่อน
1.3 หลักความมั่นคง เช่น ถ้าไม่ผิดวินัย ก็ไม่ถูกลงโทษให้ออก อยู่จนเกษียณ
1.4 หลักความเป็นกลางทางการเมือง เช้า ห้ามข้าราชการเป็นกรรมการบริษัท
2. ระบบอุปถัมภ์ Patronage System ยึดถือพวกพ้อง เครือญาติ หรือผู้มีอุปการะคุณ


8. การจำแนกตำแหน่งได้กี่ประเภท
ตอบ ตำแหน่ง 3 ประเภท
1.จำแนกตาแหน่งตามลักษณะตำแหน่ง Position Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งโดยถือลักษณะความรับผิดชอบของตาแหน่งเป็นสำคัญ เช่น กลุ่มเจ้าหน้าที่ธุรการ การเงิน นิติกร วิศวกร เป็นต้น
2.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะยศ Rank Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งตามตำแหน่งที่ประกอบกับชั้นยศ ใช้กับทหาร ตำรวจ
3. การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะชั้นยศทางวิชาการ Academic Rank Classification จำแนกตามคุณลักษณะความเชี่ยวชาญ วิชาการ เช่น ครู อาจารย์


9. ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนกำลังคนได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1. ศึกษานโยบายและแผนขององค์การ กระบวนการวางแผนกาลังคนต้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนขององค์การ และ
2. การตรวจสภาพกาลังคน ; ค้นหาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับสภาพกาลังคนที่มีอยู่ในองค์การ
3. การพยากรณ์ความต้องการกาลังคน คล้ายกับการตรวจสภาพกาลังคน แต่การพยากรณ์มุ่งเน้นอนาคต
4. การเตรียมหาคนสาหรับอนาคต

10. การวางแผนกำลังคนที่ดีต้องทราบอะไรบ้าง
ตอบ 1. ภาระงาน Workload หน้าที่ความรับผิดชอบชั่วโมงงาน
2. การออกแบบงาน Job Design เป็นการออกแบบโครงสร้างงานต่างๆ ทั้งองค์การว่ามีกลุ่มงานอะไรบ้าง
3. การวิเคราะห์งาน Job Analysis วิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง กาหนดคุณลักษณะที่จาเป็นแต่ละตำแหน่ง
4. รายละเอียดของตำแหน่งงาน Job Description เป็นการกำหนดชื่อตำแหน่งงานที่ต้องปฏิบัติ
5. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง Job Specification เป็นการกำหนดรายละเอียดในตำแหน่งลึกลงไปอีก
6. การทาให้งานมีความหมาย Job Enrichment เป็นวิธีการจูงใจและพัฒนาบุคลากรให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน

11. บุคลากรด้านทรัพยากรการเรียนรู้มีกี่ประเภท
ตอบ มี 3 ประเภท
1. ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ ให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำ การจัดดำเนินงาน การจัดบุคลากร การนิเทศ การติดต่อประสานงาน การทำงบประมาณ การกำหนดมาตรฐานของงานเพื่อให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
2. ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์สื่อการศึกษาที่นาโครงการต่างๆออกสู่ กลุ่มเป้าหมาย เช่น บริการด้านการจัดหาสื่อ บริการด้านการใช้สื่อ ด้านการบำรุงรักษา ด้านการให้คำปรึกษา ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องปฏิบัติการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นต้น ซึ่งแนวทางในการกำหนดภารกิจด้านบริการควรสะท้อนปรัชญาที่ยึดความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก
3. บุคลากรด้านการผลิตสื่อ

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3-4-5 รายวิชา 423312 Learning Resources Center Management


1. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ถ้าแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายของระบบการศึกษาได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ 3 ประเภท
1.การศึกษาในระบบ
2.การศึกษานอกระบบ
3.การศึกษาตามอัธยาศัย

2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ 1.การศึกษาในระบบ (Formal Education) คือการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษาการวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2.การศึกษานอกระบบ หมายถึง การศึกษาซึ่งจัดขึ้นนอกระบบปกติ ที่จัดให้กับประชาชนทุกเพศทุกวัย ไม่มีการจำกัดพื้นฐานการศึกษาอาชีพประสบการณ์หรือความสนใจ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เรียนได้รับความรู้ในด้านพื้นฐานแก่การดำรงชีวิต ความรู้ทางด้านทักษะ การประกอบอาชีพและความรู้ด้านอื่น ๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต การจัดการศึกษามีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษาระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและประเมินผล ซึ่งเงื่อนไข การสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตร จะต้องมีตามเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน 3.การศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึงกระบวนการที่มนุษย์ได้รับการถ่ายทอด และสั่งสมความรู้ ทักษะ เจตคติ ความคิด จากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน และสิ่งแวดล้อมตลอดชีวิต เป็นการศึกษาที่ไม่มีองค์กร ไม่มีระบบ ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่ตั้งใจ และเรื่องที่ได้รับการถ่ายทอดก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตในสังคม ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้ในครอบครัว ในที่ทำงาน สถานที่ท่องเที่ยว การเรียนรู้จากแบบอย่างและทัศนคติในครอบครัวหรือเพื่อนการเรียนรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ และจากการท่องเที่ยว ตลอดจนการเรียนรู้โดยฟังวิทยุ ดูภาพยนตร์และโทรทัศน์ เป็นต้น


3. ให้นิสิตหาตัวอย่างศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภท ละ 3 ศูนย์ พร้อมบอกสถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์นั้น ๆ พร้อมแหล่งอ้างอิง
ตอบ 1.การศึกษาในระบบ
-สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพา
-หอสมุดแห่งชาติชลบุรี
-ศูนย์วิทยทรัพยากรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2.การศึกษานอกระบบ
-ศูนย์ฝึกอาชีพชลบุรี
-ศูนย์การศึกษานอกระบบโรงเรียนจังหวัดชลบุรี
-ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชลบุรี

3.การศึกษาตามอัธยาศัย
-พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
-ศูนย์มานุษยวิทยาศิรินธร
-พิพิธภัณท์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

4. ให้นิสิตแต่ละคน หาตัวอย่างของศูนย์สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัยมา คนละ 1 ศูนย์ โดยต้องอธิบายดังรายละเอียดต่อไปนี้
ตอบ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติมิวเซี่ยมสยาม

นโยบาย
เน้นการนำเสนอเนื้อหาเชิงบูรณาการ เพื่อให้ครอบคลุมองค์ความรู้ ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี และศิลปกรรมศาสตร์ ฯลฯ ใช้งานวิจัยเป็นพื้นฐานในการสร้างเนื้อหา ในการรวบรวมเนื้อหาใช้การศึกษา วิเคราะห์ จัดลำดับความคิด เพื่อสร้าง"แก่นเรื่องรวม" ( theme ) ให้ครอบคลุมเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ โดยใช้ทักษะของการเล่าเรื่อง(story telling) เริ่มตั้งแต่การปูพื้น เกริ่นนำ การเดินเรื่อง การสร้างจุดเน้น การสรุปและการนำความคิดไปสร้างจินตภาพให้เห็นรูปลักษณ์ของนิทรรศการโดยรวม แบ่งเนื้อหาออกเป็นประเด็นต่างๆ แต่ละประเด็นคำนึงถึง Context เพื่อสร้างความตระหนักรู้ จุดประกายให้เกิดความใฝ่รู้ ง่ายต่อการเรียนรู้ และความเข้าใจ ง่ายต่อการจดจำ และนำไปคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง

วิสัยทัศน์
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้เรื่องความเป็นมาของ บ้านเมือง จนมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อก่อเกิดการเรียนรู้ สร้างสำนึกรักบ้านเมืองและท้องถิ่นของตน รวมทั้งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในลักษณะ"เครือญาติ" กับประเทศเพื่อนบ้านอันเป็นองค์ความรู้ที่นำไปสู่ความมั่นคงและสันติภาพใน ภูมิภาค

กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทย ประกอบด้วยเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ คนต่างประเทศ นักท่องเที่ยว ความเป็นมา รัฐบาลมีภารกิจที่สำคัญ คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทำให้คนไทยมี คุณภาพด้วยการที่สามารถแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ดังนั้นสังคมจึงควรมีแหล่งที่จะแสวงหาความรู้ที่มีความหลากหลายในรูปแบบและ เนื้อหา ในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนมากจะมีแหล่งแสวงหาความรู้สำหรับคนในแต่ละช่วงวัย และมีความสนใจต่างๆ โดยมีทั้งห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์นันทนาการและกีฬา โรงละคร หอศิลป์ และสถานที่แสดงดนตรี รวมทั้งสนับสนุนให้ ชุมชนมีกิจกรรมเพื่อการเติบโตของความรู้ สติปัญญา และความงอกงามของจิตใจ สำหรับประเทศไทยซึ่งจำเป็นต้องขยายโอกาสทางการศึกษา ด้วยสถาบันใหม่ที่จะมารองรับการศึกษายุคปฏิรูปให้ทันกับโลกยุคการเรียนรู้ แบบไร้ขีดจำกัด (school without walls) เพราะคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้คุณค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ ที่ทำให้สามารถเข้าใจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าใจปัญหาที่เผชิญหน้าควบคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ประเทศจึงต้องการ "พิพิธภัณฑ์" ในฐานะที่เป็นสถาบันใหม่ที่สะท้อนความมั่นคงของสังคม วัฒนธรรม ลักษณะเฉพาะตน และความภาคภูมิใจในสังคมของตน http://www.ndmi.or.th/about/project

5. ให้นิสิตแต่ละคนหาตัวอย่างผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ มาคนละ 2 ผังโครงสร้าง พร้อมเขียนอธิบายดังนี้

5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด

1.สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

รูปแบบ Line Organization เพราะ เป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างตามงานที่รับผิดชอบในอำนาจหน้าที่กันเป็นขั้นๆ จากระดับสูงสุดไปจนกระทั่งต่ำสุด

ที่มา http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94&hl=th&biw=1366&bih=667&tbm=isch&tbnid=K4UK5r9iZbH6sM:&imgrefurl=http://www.lib.pt.tsu.ac.th/2011/index.php%3Fpage%3Dstructure&docid=Uichheunzn9XeM&imgurl=http://www.lib.pt.tsu.ac.th/2011/images/new-stru2.jpg&w=586&h=363&ei=pkbnTuzSCcXqrQe73q2nBw&zoom=1&iact=hc&vpx=706&vpy=265&dur=4056&hovh=177&hovw=285&tx=206&ty=152&sig=112889695311050294104&page=1&tbnh=114&tbnw=184&start=0&ndsp=18&ved=1t:429,r:9,s:0



2.สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

รูปแบบ Line and Staff Oraniza เป็นรูปแบบการจัดการโครงสร้างสำหรับหน่วยงานใหญ่ ซึ่งลำพังผู้บริหารคนเดียวไม่สามารถดำเนินการได้ จึงมีรูปแบบของคณะกรรมการต่างๆเข้ามาช่วยควบคุมการทำงานโดยมีอำนาจทางอ้อวมในการดำเนินการนั้นๆ

ที่มา http://lib.arit.rmutp.ac.th/about/